ผู้เขียน หัวข้อ: อาหารสายยาง: อาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ที่มีปัญหาในการย่อยและการดูดซึมสารอาหาร  (อ่าน 16 ครั้ง)

siritidaphon

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 91
    • ดูรายละเอียด
อาหารสายยาง: อาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ที่มีปัญหาในการย่อยและการดูดซึมสารอาหาร

การรับประทานอาหาร เป็นเรื่องที่เราต้องเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ และการรับประทานอาหารเอง ก็ส่งผลต่อภาวะย่อยอาหารและการดูดซึมของร่างกายโดยปกติแล้ว เมื่อร่างกายเรามีภาวะอาหารหรือดูดซึมอาหารที่ผิดปกติ มักทำให้เกิดปัญหาโรคหรือความผิดปกติต่าง ๆเช่น โรคลำไส้อักเสบ ภาวะตับอ่อนล้มเหลว โดยระบบย่อยอาหารนั้น มีหน้าที่เปลี่ยนอาหารที่เรารับประทานเข้าไปให้กลายเป็นพลังงานเพื่อให้ร่างกายได้นำไปใช้ รวมทั้งขับกากอาหารหรือของเสียออกนอกร่างกาย ผ่านทางทวารหนักโดยอวัยวะในระบบย่อยอาหารจะประกอบด้วยปาก คอหอย หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ตับอ่อน ตับ ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้ตรง และทวารหนัก ซึ่งล้วนทำงานร่วมกันเพื่อให้การย่อยอาหารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

แต่ถ้าหากเราอยากมีระบบย่อยอาหารที่ดีเราก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การใช้ชีวิตประจำวันเพราะอาจจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคและความผิดปกติของระบบย่อยอาหารได้ยกตัวอย่างเช่น ควรล้างมือให้สะอาดก่อนการรับประทานอาหาร ควรรับประทานอาหารให้ตรงเวลาและในปริมาณที่เหมาะสม รับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูง ดื่มน้ำให้เพียงพอและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญต้องลดความเครียดเพราะความเครียดอาจส่งผลต่อระบบการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทั้งนี้ต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสเผ็ด และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ซึ่งก็เป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคทางเดินอาหารสารพัดเช่น โรคกระเพาะ โรคกรดไหลย้อน โรคมะเร็ง นอกจากนี้ผู้ที่มีระบบย่อยอาหารและระบบการดูดซึมอาหารผิดปกติ สามารถรับประทานอาหารทางการแพทย์ได้เพื่อให้ร่างกายได้ดูดซึมไปใช้ได้ทันที

 สำหรับวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องอาหารทางการแพทย์ สำหรับผู้ที่ มีปัญหาในการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร ซึ่งอาหารทางการแพทย์ในกลุ่มนี้ จะมีลักษณะพิเศษคือ ใช้โปรตีนเวย์ที่ผ่านการย่อยแล้วบางส่วน รวมถึงมีกรดไขมันความยาวปานกลางที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายกว่ากรดไขมันทั่วไปจึงทำให้ระบบการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหารโปรตีนและไขมันทำได้ง่ายขึ้น เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาในการย่อยและการดูดซึมอาหาร ยกตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยที่ผ่านการผ่าตัด ผู้ป่วยที่มีภาวะลำไส้สั้นหรือผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของตับหรือตับอ่อนทำให้ระบบการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหารมีความผิดปกติและนอกจากนี้ อาหารทางการแพทย์กลุ่มนี้ยังเหมาะสำหรับเป็นอาหารทางสายยางให้สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้หรือผู้ป่วยที่หมดสติ

ซึ่งการย่อยอาหารและการดูดซึมอาหารของร่างกายที่มีความผิดปกตินั้นจะส่งผลให้ลดการดูดซึมของสารอาหารจึงเป็นการยากที่ร่างกายจะได้รับของเหลว เกลือแร่ สารอาหารแร่ธาตุและวิตามินต่างๆได้ตามปกติตามที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ ซึ่งถ้าหากเรามีระบบการย่อยอาหารและการดูดซึมอาหารร่างกายที่ผิดปกติก็จะมีอาการต่างๆเช่น อาการท้องร่วงหรือถ่ายในปริมาณมาก รวมไปถึงอาการกระหายน้ำอย่างหนักและน้ำหนักลด สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะตับอ่อนล้มเหลวจะมีการผลิตเอนไซม์ย่อยอาหารลดลง ส่งผลให้ร่างกายมีภาวะย่อยอาหารผิดปกติและลำไส้ดูดซึมสารอาหารได้ไม่ดีและอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพได้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ป่วยโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรังจะมีความเสี่ยงสูง นอกจากนี้ความผิดปกติที่เกี่ยวกับระบบย่อยหารที่พบได้บ่อยก็สามารถพบได้ทุกเพศ ทุกวัย โดยจะมีอาการท้องเสีย ท้องผูก เกิดโรคถุงผนังลำไส้ใหญ่อักเสบ โรคกรดไหลย้อน นิ่วในถุงน้ำดี โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ และเป็นแผลเรื้อรังโรคริดสีดวงทวาร โรคลำไส้แปรปรวนหรืออาจเกิดแผลฉีกหรือปริบริเวณขอบทวารหนักได้ ซึ่งคนที่มีปัญหาในกลุ่มนี้ควรได้รับสารอาหารที่เหมาะสมต่อร่างกายและควรเป็นอาหารที่สามารถย่อยง่ายเพื่อให้ระบบการย่อยอาหารได้ทำงานไม่หนักมาก

อย่างไรก็ตามอาหารทางการแพทย์สำหรับเด็กที่มีปัญหาในการย่อยอาหารและการดูดซึมไขมันจึงมีกรดไขมันประมาณ 50% ของไขมันทั้งหมดออย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีปริมาณโปรตีนค่อนข้างน้อยหรือ 12% ของพลังงานทั้งหมดร่างกายจึงต้องมีความจำเป็นต้องพิจารณาในการเสริมโปรตีนจากแหล่งอื่นๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับโปรตีนที่เพียงพอด้วย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าอาหารทางการแพทย์สูตรเฉพาะโรคนั้น มีหลากหลายสูตรซึ่งเราต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับ ผู้ป่วยให้มากที่สุด เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยแพทย์จะต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล เนื่องจากร่างกายของเรามีความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น ผู้สูงอายุที่มีโรคเบาหวานและมีความเสื่อมของไตร่วมด้วยจะต้องพิจารณาให้มีการประเมินก่อนการใช้อาหารทางการแพทย์เพื่อที่จะสามารถแนะนำสูตรที่เหมาะสมได้

ดังนั้นก่อนจะพิจารณาเลือกใช้อาหารทางการแพทย์สูตรใดก็ตาม เราควรปรึกษาแพทย์หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับทางด้านอาหารเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดที่ผู้ป่วยจะได้รับ และที่สำคัญในเรื่องของปริมาณของอาหารก็ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นมากเช่นเดียวกันเพราะอาหารหากเรารับประทานน้อยเกินไปหรือมากเกินไปล้วนส่งผลต่อสุขภาพทั้งสิ้น หากเรารับประทานอาหารมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาเนื่องจากร่างกายได้รับสารอาหารเกินความจำเป็น แต่ถ้าหากได้รับสารอาหารที่น้อยเกินไปอาจจะทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหารได้ ดังนั้นทางเราอยากให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับร่างกายและมีประโยชน์มากที่สุด เพื่อให้ร่างกายได้มีสุขภาพที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่รวมทั้งยังมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย